วันพุธที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2568

“วีซ่านอร์เวย์ผ่านแน่นอน! เอกสารที่ต้องเตรียมเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ”

วิธีการยื่นขอวีซ่านอร์เวย์: เอกสารที่สำคัญและเคล็ดลับเพื่อความสำเร็จ

การขอวีซ่าท่องเที่ยวหรือเยี่ยมเยือนนอร์เวย์อาจดูเป็นเรื่องที่ท้าทาย แต่ถ้าเตรียมเอกสารให้ครบถ้วนและชัดเจน จะมีโอกาสสูงที่จะได้รับการอนุมัติจากสถานทูตนอร์เวย์ได้ไม่ยาก! ในบล็อกนี้ เราจะมาแนะนำวิธีการเตรียมเอกสารที่สำคัญและเคล็ดลับในการเพิ่มความน่าเชื่อถือในการขอวีซ่านอร์เวย์ให้ผ่านทุกขั้นตอน


“หลักฐานแสดงความผูกพันกับประเทศไทย” อย่างละเอียดที่สุดเท่าที่สถานทูตมักพิจารณา เพื่อช่วยเพิ่มโอกาสการได้รับวีซ่า 



1. หลักฐานครอบครัวในประเทศไทย

เพื่อแสดงว่ามีสมาชิกครอบครัวที่ต้องกลับมาอยู่ด้วยหรือดูแล

  • สำเนาทะเบียนบ้าน (ที่มีชื่อพ่อแม่หรือสมาชิกในครอบครัวอยู่ด้วย)
  • สูติบัตรของบุตร (ถ้ามี)
  • สำเนาบัตรประชาชนของพ่อแม่ / คู่สมรส / บุตร
  • จดหมายอธิบายความสัมพันธ์ (พร้อมแนบรูปถ่ายร่วมกับครอบครัว)
  • เอกสารแสดงภาระหน้าที่ เช่น ใบรับรองว่าต้องดูแลพ่อแม่ที่ป่วย หรือเด็กในบ้าน

2.หลักฐานความสัมพันธ์

วีซ่าเชงเก้น (ประเภท C – เยี่ยมญาติ) อาศัยอยู่ในนอร์เวย์ จำเป็นต้องแสดงเอกสารยืนยันว่าเป็น พี่น้องสายตรงกัน อย่างครบถ้วนและน่าเชื่อถือ โดยสามารถใช้เอกสารต่าง ๆ ต่อไปนี้:

เอกสารพิสูจน์ความสัมพันธ์ (โดยละเอียด)

1. สูติบัตร (ใบเกิด) ของทั้งสองคน

  • ใช้แสดงชื่อบิดา-มารดา ให้ตรงกัน เพื่อยืนยันว่าเป็นพี่น้องสายเลือดเดียวกัน
  • ต้องมี:
    • ต้นฉบับ
    • แปลภาษาอังกฤษหรือภาษานอร์เวย์
    • ใบรับรองการแปลจากนักแปลที่ได้รับการรับรอง (Certified translator)


2. สำเนาทะเบียนบ้านของทั้งสองฝ่าย (ไทย)

  • แสดงที่อยู่ร่วมกัน (ถ้ามี)
  • แปลภาษาอังกฤษ พร้อมเซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง

3. รูปถ่ายร่วมกัน

  • ควรมีรูปถ่ายตั้งแต่วัยเด็กจนถึงปัจจุบัน (ถ้ามี)
  • อธิบายภาพใต้รูป เช่น “ไปเที่ยวเชียงใหม่ด้วยกัน ปี 2018”
  • แนบ 4–6 รูปขึ้นไป (พิมพ์ใส่เอกสารหรือรวมเป็นไฟล์ PDF)

4. จดหมายอธิบายความสัมพันธ์ (Letter of Family Relationship)

ให้ทั้ง ผู้เชิญ และ ผู้ยื่นขอวีซ่า  เขียนคนละฉบับ:

ตัวอย่างหัวข้อที่ควรเขียน:

  • ความสัมพันธ์: เป็นพี่น้องกันอย่างไร, เติบโตมาด้วยกันไหม
  • การติดต่อสื่อสารปัจจุบัน: โทรหา/วิดีโอคอลบ่อยแค่ไหน
  • วัตถุประสงค์ในการเดินทาง: เยี่ยมพี่, ท่องเที่ยวด้วยกัน, ไม่ได้เจอกันนาน


5. หลักฐานการติดต่อกัน (ถ้ามี)

  • แชต, การโทร, การโอนเงิน หรือการเขียนจดหมาย (LINE, Messenger, Email ฯลฯ)
  • แคปหน้าจอเป็นไฟล์ PDF หรือพิมพ์ใส่เอกสาร


6. สำเนาบัตรประชาชน / หนังสือเดินทางของที่อยู่ในนอร์เวย์

  • หน้าข้อมูลพาสปอร์ต
  • บัตรพำนักในนอร์เวย์ (D-number หรือ fødselsnummer)
  • หากมีใบเปลี่ยนชื่อ ควรแนบด้วยเพื่อให้ชื่อในเอกสารต่าง ๆ สอดคล้องกัน


7. เอกสารอื่น ๆ (ถ้ามี)

  • ใบเปลี่ยนชื่อ-สกุล (ถ้าพี่หรือน้องเคยเปลี่ยนชื่อ)
  • หนังสือรับรองจากอำเภอ ว่าทั้งสองเป็นพี่น้องกัน (ถ้าชื่อพ่อแม่ไม่ตรง หรือมีข้อสงสัยในเอกสาร)


3. หลักฐานด้านการศึกษา

(ถ้ายังเรียนอยู่ หรือมีแผนจะกลับไปเรียนต่อ)

  • หนังสือรับรองการเป็นนักศึกษา (จากโรงเรียน มหาวิทยาลัย หรือสถาบัน)
  • ใบตอบรับการเข้าเรียนเทอมต่อไป
  • บัตรนักศึกษา
  • ตารางเรียนหรือหลักสูตรการเรียน
  • จดหมายจากสถาบันการศึกษาว่าจะกลับมาเรียนต่อ


4. หลักฐานด้านการทำงานหรือแผนการทำงาน

(ทั้งปัจจุบันและแผนในอนาคต)

ถ้ามีงาน:

  • หนังสือรับรองการทำงาน (ภาษาอังกฤษ/แปล)
  • สลิปเงินเดือนย้อนหลัง 3 เดือน
  • สัญญาจ้าง
  • เอกสารลางาน
  • บัญชีธนาคารที่แสดงเงินเดือนเข้า

ถ้ายังไม่มีงาน:

  • จดหมายอธิบายว่าเคยทำงานที่ไหน มีแผนจะสมัครงานเมื่อกลับไทย
  • หลักฐานการสมัครงานหรือเรียกสัมภาษณ์ (ถ้ามี)
  • ใบรับรองทักษะวิชาชีพ หรือวุฒิการศึกษา


5. หลักฐานทรัพย์สินหรือภาระผูกพันทางการเงิน

เพื่อแสดงว่าไม่จำเป็นต้องอยู่ผิดกฎหมายในต่างประเทศ

  • โฉนดที่ดิน / หนังสือกรรมสิทธิ์บ้าน
  • ทะเบียนรถ
  • สมุดบัญชีธนาคารย้อนหลัง 3–6 เดือน
  • การถือหุ้น หรือรายได้อื่น ๆ
  • การชำระภาษี (ถ้ามี)


6. จดหมายอธิบายส่วนตัว (Personal Letter)

เนื้อหาควรมี:

  • เหตุผลที่อยากไปนอร์เวย์ (ท่องเที่ยว เยี่ยมญาติ ฯลฯ)
  • แผนการเดินทาง (กี่วัน, จะอยู่กับใคร)
  • ความรับผิดชอบในไทยที่ต้องกลับมา เช่น งาน การเรียน การดูแลครอบครัว
  • ยืนยันว่าจะกลับไทยตามกำหนด
เป็นเอกสารที่สถานทูตจะอ่านจริง และตัดสินใจจากใจความในนั้น
  • ควรเขียนให้:

    • สั้น กระชับ จริงใจ และสุภาพ
    • ระบุชัดว่าไปทำอะไร ที่ไหน นานแค่ไหน
    • มีความผูกพันอะไรในไทยที่ต้องกลับมา (ครอบครัว, ภาระ, แผนอนาคต)
    • ยืนยันว่ามีความเคารพกฎหมาย และจะเดินทางกลับตามกำหนด

7. หลักฐานการเดินทางกลับไทย

(เพื่อแสดงว่าไม่มีเจตนาอยู่เกินวีซ่า)

  • ตั๋วเครื่องบินขากลับ (จองไว้ล่วงหน้าแบบมีเงื่อนไขเปลี่ยนได้)
  • แผนการเดินทาง (Travel itinerary) ที่ระบุวันเข้า–ออกชัดเจน


8. หลักฐานทางสังคม/ศาสนา/กิจกรรม

(แสดงให้เห็นว่ามีชีวิตที่ผูกพันกับสังคมไทย)

  • การเป็นสมาชิกสมาคมหรือชมรมต่าง ๆ (เช่น สมาคมศิษย์เก่า, ชมรมแม่บ้าน, กลุ่มจิตอาสา ฯลฯ)
  • บัตรสมาชิกองค์กรทางศาสนา หรือจดหมายจากวัด/โบสถ์ที่ร่วมกิจกรรมประจำ
  • เอกสารหรือภาพถ่ายการเข้าร่วมกิจกรรมในชุมชน เช่น งานประเพณี, บริจาค, สอนเด็ก


9. หลักฐานสุขภาพ (กรณีดูแลบุคคลอื่น)

  • ใบรับรองแพทย์ของบุคคลที่ต้องดูแล เช่น พ่อแม่ที่ป่วย
  • จดหมายอธิบายหน้าที่การดูแล หรือเอกสารจากโรงพยาบาล


10. จดหมายรับรองจากบุคคลมีตำแหน่งในไทย (Highly Trusted References) หนังสือรับรองจากบุคคลที่มีชื่อเสียงหรือมีความน่าเชื่อถือในไทย

(เสริมความน่าเชื่อถือของผู้เดินทาง)

  • หนังสือรับรองจากครู, นายจ้างเก่า, ข้าราชการ, พระ, หัวหน้าชุมชน ฯลฯ
  • ต้องเขียนระบุชัดเจนว่า “ผู้เดินทางมีความรับผิดชอบ, ไม่มีประวัติเสื่อมเสีย และมีเหตุผลชัดเจนที่จะกลับมาไทยตามกำหนด”
  • ยิ่งบุคคลที่ออกหนังสือรับรองมีตำแหน่งหรือภาพลักษณ์ดีเท่าไร ก็ยิ่งน่าเชื่อถือ

    • ครู/อาจารย์ในโรงเรียน/มหาวิทยาลัย (แม้ไม่ได้เรียนแล้วก็ขอได้)
    • ข้าราชการท้องถิ่น เช่น ผู้ใหญ่บ้าน, อบต., ปลัดอำเภอ
    • เจ้าอาวาสวัดประจำท้องถิ่น
    • นายจ้างเก่า หรือเจ้าของกิจการที่เคยร่วมงาน
    • ผู้นำชุมชน หรือประธานกลุ่มต่าง ๆ

    เนื้อหาควรระบุว่า: รู้จักดี, มีพฤติกรรมดี, ไม่มีเจตนาอยู่ต่างประเทศเกินวีซ่า, และมีเหตุผลชัดเจนที่จะกลับไทย

11. ประวัติการเดินทาง (Travel History)

ถ้ามีการเดินทางไปต่างประเทศแล้วกลับมาตามกำหนด:

  • หน้าวีซ่าและตราประทับเข้า–ออกจากประเทศอื่น (โดยเฉพาะกลุ่มเชงเก้น ญี่ปุ่น เกาหลี สิงคโปร์ อังกฤษ ฯลฯ)
  • ตั๋วเครื่องบินและแผนการเดินทางครั้งก่อน
  • ใช้เพื่อแสดงว่า “เคยเดินทางและกลับประเทศตามกำหนดเวลา”

ถ้ายังไม่เคยเดินทางต่างประเทศเลย ไม่เป็นปัญหา แต่อาจต้องเน้นเอกสารภายในประเทศมากขึ้นแทน



12. แผนการท่องเที่ยวในนอร์เวย์ (Travel Plan in Norway)

เพื่อให้สถานทูตมั่นใจว่าไปเที่ยวจริง และไม่อยู่เกินวีซ่า

  • รายละเอียดสถานที่ที่จะไป เช่น เมืองต่าง ๆ, พิพิธภัณฑ์, ธรรมชาติ, ร้านอาหาร
  • วันที่จะเดินทางแต่ละวัน (ไม่ต้องละเอียดเกินไป แต่ควรมีภาพรวม)
  • หากมีการจองที่พักบางส่วนล่วงหน้า (เช่น Booking.com) จะช่วยให้ดูจริงจังขึ้น

13. ประกันการเดินทาง (Travel Insurance)

จำเป็นต้องมี! ตามเงื่อนไขวีซ่าเชงเก้น

  • ควรครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลขั้นต่ำ 30,000 ยูโร
  • ครอบคลุมช่วงเวลาที่อยู่ในยุโรป
  • แสดงใบรับรองจากบริษัทประกันที่ออกเป็นภาษาอังกฤษ


14. เงินทุนสำรองจากผู้เดินทาง

แม้แฟนจะเป็นผู้รับประกันหลัก แต่ถ้ามีเงินในบัญชีตัวเองบ้าง ก็ช่วยเพิ่มความมั่นใจ

  • สมุดบัญชีธนาคาร (ย้อนหลัง 3–6 เดือน)
  • ใบรับรองยอดเงินคงเหลือจากธนาคาร (ภาษาอังกฤษ)
  • จดหมายอธิบายที่มาของเงิน (ถ้าเงินก้อนใหญ่มาจากผู้ให้การสนับสนุน )


15. เอกสารแสดง “บทบาทหรือหน้าที่” ในไทย

นอกเหนือจากงานประจำ อะไรก็ตามที่แสดงว่าคุณมีหน้าที่รับผิดชอบในสังคม ก็ช่วยได้มาก

  • เป็นผู้ดูแลพ่อแม่/ผู้สูงอายุในบ้าน → แนบใบรับรองแพทย์ของผู้สูงอายุ + จดหมายอธิบายหน้าที่
  • มีหน้าที่ช่วยกิจการครอบครัว เช่น ร้านค้า, ฟาร์ม, งานฝีมือ → รูปภาพ, ใบสั่งซื้อ, บัญชีร้าน
  • เป็นผู้ปกครองหรือพี่เลี้ยงเด็กในบ้าน → แนบหลักฐาน เช่น สูติบัตรเด็ก, ทะเบียนบ้าน, รูปกิจกรรม

16. เอกสารทรัพย์สินที่จับต้องได้

ยิ่งเอกสารที่เป็น “หลักฐานที่ทางราชการออกให้” ก็ยิ่งน่าเชื่อถือ

  • โฉนดที่ดิน / ทะเบียนบ้านที่เป็นเจ้าของร่วม
  • ทะเบียนรถ (ชื่อผู้เดินทางเป็นเจ้าของ)
  • ใบเสร็จภาษีที่ดิน/ภาษีป้าย (แสดงว่ามีภาระต้องชำระในไทย)
  • บัญชีเงินฝากประจำ หรือบัญชีสะสมทรัพย์ที่เคลื่อนไหวจริง


18. เอกสารแปลภาษาอย่างเป็นทางการ

  • เอกสารราชการที่แปลโดยนักแปลที่มีชื่อ หรือแปลพร้อมรับรองคำแปล (Certified Translation)
  • มีตราประทับรับรองจาก Notary Public หรือกรมการกงสุล จะยิ่งน่าเชื่อถือมาก



ยิ่งคุณแนบหลักฐานหลายด้านที่แสดงว่า “มีรากฐานผูกพันกับประเทศไทย” และ “มีความตั้งใจเดินทางกลับ” โอกาสที่วีซ่าจะผ่านก็สูงขึ้นค่ะ แม้ไม่มีงานประจำ

















สิ่งที่ควรรู้เมื่อได้รับบัตรอนุญาตพำนัก

  🛂 สิ่งที่ควรรู้เมื่อได้รับบัตรอนุญาตพำนัก บัตรนี้เป็นหลักฐานว่าคุณมีสิทธิ์พำนักอยู่ในนอร์เวย์ ดังนั้นคุณต้อง ดูแลบัตรนี้อย่างดี 📝 ✅ ตรวจ...